ติดตามสถานะการขนส่งพัสดุของคุณได้ง่าย ๆ ทุกขั้นตอนด้วยการเช็คพัสดุ อยู่ที่ไหน ถึงเมื่อไหร่ รู้ได้!
ปัญหาที่หลายคนมักเจอเวลาซื้อของออนไลน์คือ สถานะการขนส่งสินค้า ทำให้ไม่ทราบว่าขณะนี้สินค้าของเราอยู่ในขั้นตอนไหน? แม่ค้าส่งของให้หรือยัง? หรือจะได้รับของในวันไหน? ทำให้เกิดความกังวลเวลาสั่งซื้อของออนไลน์ สำหรับใครที่เป็นนักช้อปมือใหม่และเผชิญกับปัญหาเหล่านี้อยู่ วันนี้เราจะพาไปติดตามสถานะสินค้าของคุณกันแบบง่าย ๆ ด้วยการเช็คพัสดุ ที่จะช่วยให้คุณทราบสถานะการขนส่งได้ในทุกขั้นตอน
ขั้นตอนการเช็คพัสดุ ทำอย่างไร ทราบอะไรบ้าง?
- ขอเลขพัสดุจากร้านค้า เลขพัสดุต่าง ๆ ทางร้านค้าจะเป็นผู้ส่งให้ลูกค้าเมื่อได้ดำเนินการจัดส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเลขพัสดุที่ได้จะประกอบด้วย ตัวหนังสือภาษาอังกฤษและตัวเลข ตามรูปแบบของขนส่งในแต่ละบริษัท รวมถึงบริษัทที่ใช้ในการขนส่ง เมื่อได้เลขพัสดุจากร้านค้าแล้วจึงนำเลขไปเช็คได้
- เลือกค้นหาพัสดุตามขนส่งที่ให้บริการ แต่ละร้านอาจเลือกใช้บริษัทขนส่งที่ไม่เหมือนกัน นอกจากเลขพัสดุที่ทางร้านให้มาแล้วยังควรดูด้วยว่าจัดส่งมาจากขนส่งอะไร เพื่อได้เข้าไปติดตามสถานะการจัดส่งได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในปัจจุบันนี้บริษัทขนส่งต่าง ๆ ก็เปิดให้ติดตามสถานะพัสดุได้ทั้งทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เมื่อกดเข้าไปแล้วจะมีช่องหรือเมนู ติดตามสถานะสินค้า หรือ เช็คพัสดุ ขึ้นในหน้าแรกเพื่อให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น
- กรอกเลขพัสดุในช่องค้นหาให้ครบ นำเลขพัสดุใส่ลงไปในช่องค้นหาเพื่อเริ่มติดตามพัสดุ หากทางร้านให้มาเป็นข้อความ สามารถกด Copy มาได้เลย แต่หากเป็นไฟล์รูปภาพควรตรวจสอบเลขพัสดุให้ถูกต้องก่อน
- ติดตามพัสดุจากรายละเอียดการขนส่ง เมื่อใส่เลขพัสดุไปแล้วรายละเอียดการขนส่งต่าง ๆ จะแสดงให้ทราบ ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้ส่ง วันที่และเวลาการจัดส่ง ขั้นตอนการจัดส่งสินค้า ที่จะแสดงให้ทราบว่าขณะนี้สินค้าถูกจัดส่งถึงขั้นตอนไหนแล้ว อยู่ที่เขตไหน หรือกำลังเตรียมนำจ่ายพัสดุแล้วหรือยัง เพื่อให้เตรียมรอรับสินค้า
เรื่องน่ารู้ในการเช็คพัสดุ มีประโยชน์อย่างไร เช็คได้บ่อยแค่ไหน จำเป็นหรือไม่?
- สามารถติดตามสถานะสินค้าได้ทุกวัน เมื่อได้เลขพัสดุมาแล้วสามารถเข้าไปติดตามสถานะการจัดส่งได้ทุกวัน เพื่อดูว่าขณะนี้สินค้าถูกส่งมาถึงไหนแล้ว ใกล้จะถึงหรือยัง โดยจะมีข้อมูลอัปเดตให้ทราบในแต่ละขั้นตอน
- ช่วยให้อุ่นใจในการสั่งซื้อของออนไลน์ ช่วยให้อุ่นใจได้ว่ามีการจัดส่งสินค้ามาให้จริง ๆ ไม่โดนหลอก
- ช่วยให้ทราบวันที่จะได้รับของ ในรายละเอียดการขนส่งจะมีวันที่บอกเอาไว้ว่าสินค้าจะถึงภายในวันไหน ใช้เวลาการขนส่งประมาณกี่วัน
- ตรวจสอบความปกติในการขนส่ง เพื่อป้องกันแม่ค้าแจ้งเลขพัสดุปลอมที่นำเลขพัสดุของผู้อื่นมา เช่น เลขพัสดุที่มีการจัดส่งเรียบร้อยแล้ว สถานะการจัดส่งที่ระบุชื่อและที่อยู่ของผู้อื่น ฯลฯ โดยทั้งหมดนี้สามารถตรวจสอบได้จากเลขพัสดุ
- ตรวจสอบย้อนหลังได้ สามารถเข้าไปดูย้อนหลังได้ว่าพัสดุจัดส่งเรียบร้อยแล้วหรือยัง หรือใครเป็นผู้รับ จะมีชื่อผู้รับหรือลายเซ็นแจ้งให้ทราบ
หลายคนอาจคิดว่าการเช็คพัสดุเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น แต่ความจริงแล้วจำเป็นมากกว่าที่คิด เพราะช่วยให้ทราบสถานะการจัดส่งสินค้า เตรียมรับของได้ทันเวลา และไม่ต้องกังวลว่าของจะมาถึงวันไหน เมื่อไหร่?
บทความเกี่ยวกับพัสดุที่น่าสนใจ
Wangnii and new normal express
เวลาว่างอาจนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย แต่เราจะปฎิเสธไม่ได้เลยว่า การใช้เวลาในยามว่างนั้น ค่อนข้างจะมีความสำคัญ เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะช่วยให้คนผ่อนคลาย ช่วยให้คนสามารถหยุดคิดถึงภาระความเครียดจากงาน ได้ปลดปล่อยให้ตัวเองนั้น
Google trend กับ logistics ตอน 4 : Related Topic and Queries
wangnii ได้เขียน บทความ Google trends กับ logistics ตอนที่ 4 จากสามตอนก็จะเห็นว่า Google trend นั้นมีประโยชน์ อย่างมาก และด้วยความบูมของ parcel delivery ทำให้เราสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และจับข้อมูลสำคัญได้ ซึ่งในตอนนี้ก็จะพูดถึง Related Queries
Google trend กับ Parcel Delivery ตอน 3 : Area Analysis
ทำไม พื้นที่ต่างๆถึงมีความสำคัญ ทำไมทางภาคธุรกิจจำเป็นต้องรู้ trend หรือ ยอดการค้นหาคำสำคัญที่ segment ในแต่ละจังหวัด เนื่องจากในปัจจุบันการที่ delivery นั้นจะชนะและอยู่อย่างเติบโตได้ นั้นจะต้อง go mass และ ครอบครองตลาดจนทำให้ ต้นทุนการ deliver นั้นถูก
Google trend กับ Parcel Delivery ตอน 1 : Filter Mode
การเช็คพัสดุเดี๋ยวนี้เป็นสิ่งที่ทุกๆคนในโลกใบนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากความ globalization ของการส่งของ ทำให้การเช็คพัสดุนั้นเป็น activity ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามด้วยความแพร่หลายของ internet นั้น ทำให้การเช็คเลขพัสดุนั้นไมได้ยากกับในสมัยอดีต
สถิติการส่งพัสดุของบริษัทขนส่งแต่ละแห่ง
ปัจจุบันกระแสการส่งพัสดุนั้นยอดการใช้งานกำลังมาแรง ด้วยข้อมูลยอดการใช้งานการส่งพัสดุ ของ thaiware ประจำปี 2564 นั้น อยู่ที่ 33.5 ล้านครั้ง ด้วยความที่ว่าคนนั้นต้องอยู่ในสังคม work from home ทำให้ผู้คนที่อยู่ในยุคโควิดนั้นไม่ได้เจอกัน